ถึงเวลาของการเพิ่มประสิทธิภาพในการช็อปปิ้ง โดยปกติเรามักจะเลือกเสื้อผ้าจากการตัดเย็บ สีและสไตล์ที่เหมาะสมกับการสวมใส่ในแต่ละโอกาส แต่ในปัจจุบันเทรนด์การเลือกใส่เสื้อผ้านั้นเพิ่มรายละเอียดมากยิ่งขึ้น เพราะเกิดเทรนด์การรักษ์โลก รักษาสิ่งแวดล้อมขึ้นมา การผลิตเสื้อผ้าแบบฟาสต์แฟชั่นจึงกำลังเป็นที่ตั้งคำถามเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้บริโภคก็เปลี่ยนพฤติกรรมตามไปด้วย ดังนั้นการเลือกซื้อเสื้อผ้าจึงโฟกัสไปที่วัสดุที่นำมาใช้ทำเสื้อผ้ามากขึ้น
เส้นใยธรรมชาติอย่างเส้นใยผ้าฝ้ายหรือลินินจึงกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะเป็นมิตรกับธรรมชาติและผู้สวมใส่ แต่เส้นใยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเห็นจะเป็นผ้าฝ้าย เนื่องจากผ้าฝ้ายเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมแฟชั่นมานาน แต่มักจะนิยมผสมผ้าฝ้ายกับเส้นใยสังเคราะห์ประเภทอื่นๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิตผ้าและเพิ่มกำลังการตัดเย็บเสื้อผ้าได้นั่นเอง ดังนั้น เรามักจะได้ยินผ้าในท้องตลาดอย่าง ผ้าฝ้าย ผ้าคอตติน ผ้าลินิน ผ้าโพลีเอสเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผ้าใยสังเคราะห์ผสมกับใยธรรมชาติ จนบางคนอาจสับสนว่า ผ้าฝ้ายกับผ้าคอตตอนนั้นต่างกันอย่างไร เพราะคอตตอนนั้น แปลว่าผ้าฝ้าย แล้วผ้าฝ้ายกับผ้าคอตตอน ต่างกันอย่างไร
ผ้าคอตตอนนั้นเป็นคำที่มักใช้สำหรับผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์อย่างโพลีเอสเตอร์ ซึ่งก็มักจะผสมในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไปตามความนุ่มหรือความเรียบของผ้าที่ต้องการนำมาใช้งานให้เหมาะสม ซึ่งโดยส่วนมากก็มักจะนำมาตัดเป็นเสื้อยืดแบบต่างๆ เนื่องจากผ้าฝ้ายนั้นมีคุณสมบัติในการซับเหงื่อระบายอากาศได้ดี และโพลีเอสเตอร์ก็ซักง่าย รีดง่าย ผ้าคอตตอนจึงเป็นผ้าที่ใส่ง่ายและหาได้ตามท้องตลาดทั่วไป โดยมีทั้งหมด 2 ประเภทได้แก่ คอตตอน TC และ CVC แตกต่างกันที่สัดส่วนของเส้นใยทั้งสองประเภท
ในขณะที่ผ้าที่เรียกว่าผ้าฝ้ายนั้น เป็นผ้าจากเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ 100% ซึ่งเส้นด้ายถูกทอขึ้นจากปุยฝ้ายและนำมาทอเป็นเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ เส้นใยธรรมชาตินั้นมีความเบาบางและใส่สบาย แต่อาจมีราคาในท้องตลาดสูงกว่าเนื่องจากการผลิตเส้นใยผ้าฝ้ายนั้นกินเวลานาน จึงสามารถสรุปได้ง่ายๆ ตามนี้
1. ผ้าฝ้ายกับผ้าคอตตอนนั้นมีความหมายเดียวกัน แต่แตกต่างกันคำเรียกตามที่ผู้ผลิตเป็นคนประดิษฐ์ขึ้น
2. ผ้าฝ้ายนั้นเป็นใยธรรมชาติจากต้นฝ้าย 100% ในขณะที่ผ้าคอตตอนอาจผสมเส้นใบสังเคราะห์ เช่นโพลีเอสเตอร์เพื่อให้ได้เสื้อที่มีควายืดหยุ่นสูง ไม่ยับง่าย
3. ผ้าฝ้ายธรรมชาตินั้นมีคุณสมบัติบางเบา ใส่สบาย แต่ยับง่ายและไม่เป็นทรง ในขณะที่ผ้าคอตตอนนั้นจัดทรงง่ายกว่าเพราะผสมใยสังเคราะห์
ในอดีตผ้าฝ้ายจึงเป็นที่นิยมในเฉพาะลูกค้าบางกลุ่ม แต่ในปัจจุบันผ้าฝ้ายเริ่มเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากความเบาบางของเนื้อผ้า ระบายความร้อนได้ดีและดีเทลของเนื้อผ้าที่ทำให้ผู้ใส่ดูเป็นคนรักธรรมชาติและรักษ์โลกอีกด้วย
ผ้าฝ้ายธรรมชาตินั้น มีคุณสมบัติที่มากมายกว่าที่คุณเคยรู้ เนื่องจากเส้นใยที่ได้จากธรรมชาตินั้นมีความละเอียดอ่อนและบางเบา เหมาะกับสภาพผิวของมนุษย์มากกว่าเส้นใยแบบสังเคราะห์ ผ้าฝ้ายนั้นเรียกได้ว่ามีเส้นใยที่บางกว่าไหมหรือลินิน อีกทั้งมีความยืดหยุ่นสูง จึงเหมาะสมกับการนำมาตัดเสื้อผ้าที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ด้วยคุณสมบัติการช่วยระบายความร้อนได้อย่างดี ในขณะเดียวกันผ้าฝ้ายก็อาจมีข้อเสียอยู่บ้างเนื่องจากเส้นใยสามารถดูดน้ำและดูดความชื้นได้ค่อนข้างดี และเนื่องจากเส้นใยบางๆของผ้าฝ้าย จึงทำให้ผ้าฝ้ายนั้นยับง่าย ผู้ที่ชอบความเรียบร้อยของเสื้อผ้าอาจจะไม่ค่อยถูกใจนัก
ในขณะเดียวกันตลาดผู้บริโภคก็กว้างใหญ่และมีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ผ้าฝ้ายนั้นได้รับความนิยมมากในกลุ่มเจเนอเรชั่นวายที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ โทนสีเอิร์ธโทนเรียบๆ แต่ให้ความสบาย ผ้าฝ้ายจึงได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ข้อเสียอย่างการอยู่ทรงยากและยับง่ายก็เปลี่ยนมาเป็นเสน่ห์ อีกทั้งผ้าฝ้ายยังไม่ต้องรีดให้ยุ่งยาก เป็นการยุ่งยับที่มีสไตล์เป็นของตัวเองเลยก็ว่าได้ อีกทั้งได้ใส่ใยธรรมชาติและเป็นส่วนหนึ่งในการลดกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมอีกด้วย
อีกหนึ่งข้อที่มองกลับไปยังผู้ผลิต ไร่ฝ้ายหรือเทคโนโลยีการปั่นฝ้ายนั้นมีมาตั้งแต่โบราณ จึงมีแบรนด์ผ้าฝ้ายหลายแบรนด์ที่กลับไปใช้วิธีการผลิตแบบเดียวกันกับการทำมือ ทำให้ได้ผ้าฝ้ายแบบทอมือที่มีความนุ่มและเป็นเอกลักษณ์ในเสื้อผ้าแต่ละชิ้น ทำให้การเลือกซื้อเสื้อผ้าใยธรรมชาติเป็นที่น่าสนใจมากกว่าที่เคยและยังได้ภาพลักษณ์ของสินค้าแฮนคราฟท์ที่ดูดีและมีระดับอีกด้วย
ไม่เพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ในปัจจุบันผ้าฝ้ายยังนำไปใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่านหน้าต่างของห้องนอน กระเป๋าผ้าฝ้ายสำหรับใส่ไปเที่ยวหรือไปเรียน ผ้าปูโต๊ะอาหาร โต๊ะอ่านหนังสือในห้อง ที่ทำให้ให้ห้องของคุณเปลี่ยนสไตล์ไปอย่างถนัดตา ผ้าฝ้ายสร้างบรรยากาศที่ดูเป็นธรรมชาติได้มากขึ้น ทำให้รู้สึกสงบในโลกที่วุ่นวายเลยก็ว่าได้ การหวนกลับไปใช้เส้นใยธรรมชาติในชีวิตประจำวันนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งทางเลือกที่กำลังเป็นที่นิยมเพราะนอกจากจะสร้างความสุขให้กับผู้บริโภคแล้วยังหมายถึงการเลือกสิ่งดีๆ ให้กับโลกอีกด้วย จะถ่ายลงอินสตราแกรมหรือติ้กต่อกก็ดูชิคยิ่งกว่าเคย เพียงแค่เลือกใช้ผ้าฝ้ายธรรมชาติในชีวิตประจำวันของคุณ