เปรียบเทียบผ้าฝ้ายพิมพ์มือกับพิมพ์ดิจิตอล ทั้งลวดลายและวิธีการพิมพ์
การพิมพ์ลายผ้าฝ้ายด้วยมือและการพิมพ์ลายผ้าฝ้ายแบบดิจิตอล ทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของวิธีการพิมพ์และผลลัพธ์ของลายผ้าฝ้ายที่พิมพ์ออกมา ซึ่งการจะเลือกใช้วิธีการพิมพ์ผ้าฝ้ายแบบไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบของลายผ้าที่ต้องการเป็นหลัก
การพิมพ์ลายผ้าฝ้ายด้วยมือโดยไม่ผ่านเครื่องจักร มีวิธีการพิมพ์ที่สามารถทำได้อยู่หลายวิธี ซึ่งการพิมพ์ลายผ้าฝ้ายแต่ละวิธีนั้น มีทั้งแบบที่เป็นภูมิปัญญาของคนโบราณ และวิธีการพิมพ์ลายผ้าฝ้ายแบบสมัยใหม่
- การสกรีนผ้าด้วยบล็อคสกรีน
การทำบล็อคสกรีนลายผ้านั้น จะต้องมีการทำตัวบล็อคสกรีนขึ้นมาเสียก่อน โดยมีขั้นตอนคล้ายกับการอัดรูป เพราะต้องมีการฉายแสงให้ลวดลายปรากฏขึ้นบนบล็อคสกรีน และต้องทำในห้องที่ไม่มีแสงยูวีมารบกวน แต่สมัยนี้มีวิธีทำบล็อคสกรีนที่ง่ายขึ้น ด้วยการใช้เครื่องทำบล็อคสกรีน ที่สามารถพิมพ์ลวดลายลงไปบนผ้าสกรีนได้เลย โดยไม่ต้องใช้กรรมวิธีฉายแสงลงบนแผ่นฟิล์ม
และเมื่อลวดลายติดอยู่บนบล็อคสกรีนเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถพิมพ์ลายลงไปบนผ้าฝ้ายด้วยการวางบล็อคสกรีนลงบนผ้า และปาดหมึกพิมพ์ผ้าฝ้ายลงไปบนสกรีน เพื่อให้หมึกพิมพ์ผ่านลงไปผ้าฝ้าย จากนั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น วิธีการพิมพ์ลายผ้าฝ้ายด้วยบล็อคสกรีนนี้ หนึ่งบล็อคจะสามารถสกรีนได้เพียงสีเดียวเท่านั้น หากต้องการสกรีนหลาย ๆ สี จะต้องมีบล็อคสกรีนหลายอัน เพื่อใช้สกรีนลวดลายสีอื่น ๆ
- การพิมพ์ลายผ้าแบบบาติค
เป็นวิธีพิมพ์ลายผ้าแบบศิลปะโบราณที่มีความเก่าแก่กว่า 1,000 ปี โดยใช้เทียนเป็นตัวช่วยในการทำให้เกิดลวดลายบนผืนผ้า โดยวิธีการพิมพ์ลายผ้าชนิดต่าง ๆ เช่น ผ้าฝ้าย ด้วยวิธีพิมพ์ลายผ้าแบบบาติกนี้ จะเริ่มต้นด้วยการใช้ปากกาเขียนเทียนจันติ้ง เขียนลวดลายเทียนลงบนผ้าฝ้ายจนทั่วทั้งบริเวณที่ต้องการ ซึ่งหากทำเป็นจำนวนมาก สามารถใช้แม่พิมพ์โลหะ เช่น แม่พิมพ์ทองแดง พิมพ์เทียนให้เป็นลวดลายลงบนผ้าแทนการเขียนได้ จากนั้นจึงนำผ้าฝ้ายไปเขียนย้อมสี ด้วยการระบายสีลงไปบนผ้า โดยส่วนที่เป็นลวดลายเขียนเทียนจะไม่ถูกสีย้อม และทำให้เกิดเป็นลวดลายสวยงามบนผ้าฝ้าย
- การพิมพ์ผ้าฝ้ายนานคีน
การพิมพ์ลายผ้านานคีน เป็นภูมิปัญญาการพิมพ์ลายผ้าของคนจีนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี เป็นวิธีพิมพ์ลายผ้าเส้นใยธรรมชาติต่าง ๆ เช่น ผ้าฝ้าย โดยใช้กระดาษฉลุลายฉาบด้วยข้าวและถั่วเหลืองบดที่จะเป็นตัวกันไม่ให้สีย้อมผ้า สัมผัสโดนกับเนื้อผ้าฝ้าย เพื่อทำให้เกิดลวดลายสีขาวบนผ้าฝ้ายที่ถูกย้อมด้วยคราม และนำผ้าฝ้ายไปตากให้แห้งเป็นเวลา 10 วัน ก่อนจะกลับมาทำการย้อมด้วยกระบวนการเดิมนี้ซ้ำอีก 12 รอบ โดยใช้เวลาในย้อมผ้านานคีนนี้กว่า 30 วัน จึงจะได้ผ้านานคีนที่มีลวดลายสีขาวบนพื้นสีคราม
- การวาดลวดลายลงไปบนผ้า
วิธีการวาดลวดลายลงไปบนผ้านั้น มักนิยมทำกับผ้าที่ต้องการลวดลายที่มีรายละเอียดสูง และต้องการเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ด้วยมือ อีกทั้งยังเป็นการทำลวดลายบนผ้าในแบบที่สามารถมองเห็นรายละเอียดของความเป็นแฮนด์เมดได้อย่างชัดเจน เช่น รอยปาดพู่กัน มักนิยมใช้ในการวาดลายผ้าสำหรับตัดชุดต่าง ๆ หรือผ้าที่ใช้ประดับเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้บางชนิด เช่น ฉากกันห้อง โคมไฟ หรือพัด
การพิมพ์ลายผ้าฝ้ายด้วยมือนั้น จะให้ลวดลายที่ดูเป็นธรรมชาติ และเป็นลวดลายแบบศิลปะโบราณหรือลายเส้นรูปแบบต่าง ๆ เช่น ลายเพชร ลายดาว ลายดอกไม้ หรือลายแบบผ้าฝ้ายบาติกที่จะมีลวดลายเซเมน ซึ่งเป็นลวดลายภูเขาพระสุเมรุ และลายบูเคตัน ซึ่งเป็นลายดอกไม้และผีเสื้อ โดยลวดลายของผ้าฝ้ายที่ได้จากการพิมพ์ด้วยมือ จะมีสีและลวดลายที่ไม่สลับซับซ้อน และบางครั้งก็มีแค่เพียงสีเดียวบนผ้าฝ้ายเท่านั้น
การพิมพ์ลายผ้าฝ้ายแบบดิจิตอล
อีกวิธีหนึ่งที่เป็นนิยมในการพิมพ์ลายผ้าฝ้าย คือ การพิมพ์ลายผ้าฝ้ายแบบดิจิตอล หรือการใช้เครื่องพิมพ์ลายผ้านั่นเอง โดยเครื่องพิมพ์ลายผ้านี้ จะมีลักษณะตัวเครื่องและการทำงานที่เหมือนกับเครื่องปรินท์เตอร์หรือเครื่องพิมพ์กระดาษ ที่มีการใช้หมึกหลาย ๆ สีพิมพ์ลวดลายลงไปบนผ้าพร้อมกันในครั้งเดียว ซึ่งวิธีการพิมพ์ผ้าแบบดิจิตอลมีทั้งหมด 2 วิธีด้วยกัน แต่วิธีการพิมพ์ลายผ้าแบบดิจิตอลที่เหมาะกับการพิมพ์ผ้าเส้นใยธรรมชาติอย่างผ้าฝ้าย 100 เปอร์เซ็นต์ คือ วิธีการพิมพ์ที่เรียกว่า Direct To Garment (DTG) ซึ่งเป็นการพิมพ์ลวดลายลงไปบนเนื้อผ้าตรง ๆ เหมือนการพิมพ์ลวดลายลงบนกระดาษ
ซึ่งการพิมพ์ลายผ้าฝ้ายด้วยวิธีการนี้ จะไม่ต้องมีการทำบล็อคหลาย ๆ สี ไม่ต้องสกรีนผ้าฝ้ายหลายครั้ง และลวดลายที่ได้จะมีความคมชัด รายละเอียดของลวดลายที่พิมพ์ลงบนผ้าฝ้ายก็จะเหมือนกับลวดลายต้นฉบับ 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงนำผ้าฝ้ายไปวางบนแท่นสกรีน เครื่องก็จะพิมพ์ลวดลายลงไปบนผ้าฝ้ายตามที่ออกแบบไว้ โดยก่อนพิมพ์ต้องมีการเชื่อมโน้ตบุ๊คกับเครื่องพิมพ์ลายผ้าเสียก่อน จากนั้นจึงเปิดรูปลายที่ต้องการพิมพ์ แล้วสั่งพิมพ์ลายผ้าฝ้ายได้แบบเดียวกับที่สั่งปรินท์งานบนเครื่องปรินท์เตอร์กระดาษ และเมื่อพิมพ์ลวดลายลงบนผ้าได้แล้ว ก็จะต้องนำผ้าไปอบเพื่อให้หมึกพิมพ์แห้ง
ข้อแตกต่างของการพิมพ์ลายผ้าฝ้ายแบบดิจิตอลกับวิธีการพิมพ์ลายฝ้าด้วยมือ
- การพิมพ์ลายผ้าฝ้ายด้วยมือจะใช้สีเพียง 1-2 สีเท่านั้น
แต่หากมีการเขียนลายลงบนผ้าฝ้ายร่วมด้วย ก็อาจใช้สีได้ตั้งแต่ 1-4 สี ซึ่งต่างจากการพิมพ์ลายผ้าแบบดิจิตอล ที่สามารถพิมพ์ลวดลายลงไปบนผ้าฝ้ายได้ทุกสีที่ต้องการ
- ลวดลายของผ้าฝ้ายพิมพ์มือ
จะมีขอบของลวดลายที่ไม่คมชัดเท่าไหร่นัก บางครั้งอาจดูเบลอหรือมีขอบของลวดลายที่ฟุ้ง แต่ก็ให้อารมณ์ของศิลปะทำมือที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่ผ้าฝ้ายที่พิมพ์ลายแบบดิจิตอล จะมีลวดลายที่ชัด ขอบของลายคมกริบ ไม่มีการเบลอหรือฟุ้ง ซึ่งลายผ้าฝ้ายที่ได้จากการพิมพ์ทั้งสองแบบนี้ ต่างก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และเหมาะกับคนที่มีความชอบแตกต่างกัน
- ลวดลายของผ้าฝ้ายพิมพ์มือไม่มีความสลับซับซ้อน
เพราะจะเป็นรูปทรงเรขาคณิต ลายเส้น ลายดอกไม้ง่าย ๆ เหมาะกับคนที่ชอบศิลปะแบบแฮนด์เมดหรือชอบผ้าแบบทำมือ ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ จึงเหมาะกับการนำมาตัดชุดพื้นเมือง ชุดสไตล์มินิมอล หรือชุดแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ ส่วนลายผ้าฝ้ายแบบพิมพ์ลายดิจิตอล จะมีลวดลายที่ซับซ้อนกว่า และสามารถพิมพ์ลวดลายลงไปบนผ้าฝ้ายได้ทุกรูปแบบ จึงเหมาะกับการนำมาตัดเย็บเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบบแฟชั่น
หากคุณสนใจผ้าฝ้ายพิมพ์ลายด้วยมือ สามารถเลือกชมได้ที่ Dobbytex ผู้ผลิตผ้าฝ้ายพื้นเมือง ผ้าฝ้ายทอมือ ที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตผ้าฝ้ายมากว่า 20 ปี โดยลายผ้าฝ้ายของเรา ใช้เทคนิคพิมพ์มือแบบดั้งเดิม ที่ทำให้ผ้าฝ้ายมีลวดลายสวยงามเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการนำไปตัดเย็บชุดพื้นเมืองแบบประยุกต์ โดยลูกค้าสามารถสั่งพิมพ์ลายผ้าฝ้ายแบบต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ เช่น ลายเพชร ลายดาว และลายดอกไม้
Tag